เมนู

ถวายบังคมพระชินโคดม ข้าพระพุทธเจ้า
ทั้งหลาย ขอถวายบังคมพระพุทธโคดม ผู้ถึง
พร้อมด้วยวิชชาและจรณะ.
พระสุริยาทิตย์ มีมณฑลใหญ่ตกในทิศใด
และเมื่อพระอาทิตย์ตก กลางวันดับไป ครั้น
พระอาทิตย์ตกแล้ว ย่อมเรียกกันว่ากลางคืน.
แม้ห้วงน้ำในที่พระอาทิตย์ตกแล้ว เป็น
สมุทรลึกมีน้ำแผ่เต็มไป ชนทั้งหลายย่อมรู้จัก
ห้วงน้ำมัน ในที่นั้นอย่างนี้ว่า สมุทรมีน้ำแผ่
เต็มไป.


ท้าววิรูปักษ์ถวายบังคม



[212] แต่นี้ไปทิศที่มหาชนเรียกกันว่า ปัจฉิมทิศ
ที่ท้าวมหาราชผู้ทรงยศ เป็นเจ้าเป็นใหญ่ของ
พวกนาค ทรงนามว่า ท้าววิรูปักษ์ อันพวก
นาคแวดล้อมแล้ว ทรงโปรดปรานด้วยการ
ฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาลอยู่.
ข้าพเจ้าได้สดับมาว่า โอรสของท้าวเธอมี
มากองค์ มีพระนามเดียวกันทั้งเก้าสิบเอ็ดองค์
มีนามว่า อินทะ ทรงพระกำลังมาก ทั้งท้าววิรู-
ปักษ์ และโอรสเหล่านั้นได้เห็นพระพุทธเจ้า
ผู้เบิกบานแล้ว ผู้เป็นเผ้าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์


พากันถวายบังคมพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้
ยิ่งใหญ่ปราศจากความครั่นคร้ามแต่ที่ไกลเทียว.
ข้าแต่พระผู้เป็นบุรุษอาชาไนย ข้าพระ-
พุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้าแต่พระ
อุดมบุรุษ ข้าพระองค์ทรงตรวจดูมหาชนด้วย
พระญาณอันฉลาด แม้พวกอมนุษย์ทั้งหลาย
ก็ถวายบังคมพระองค.์
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้สดับมาอย่าง
นั้นเนือง ๆ ฉะนั้น จึงกล่าวเช่นนี้ ข้าพระ-
พุทธเจ้าทั้งหลาย ถามเขาว่า พวกท่านทั้งหลาย
ถวายบังคมพระชินโคดมหรือเขาพากันตอบว่า
ทั้งหลายบังคมพระชินโคดม ข้าพระพุทธเจ้า
พร้อมด้วยวิชชาและจรณะ.
อุตตรกุรุทวีป เป็นรมณียสถาน มีภูเขา
หลวงชื่อ สิเนรุ แลดูงดงาม ตั้งอยู่ทิศใด
พวกมนุษย์ซึ่งเกิดในอุตตรกุรุทวีปนั้น ไม่ยึด
ถือสิ่งใดว่า เป็นของตนไม่หวงแหนกัน.
มนุษย์เหล่านั้นไม่ต้องหว่านพืช และไม่
ต้องนำไถออกไถ หมู่มนุษย์บริโภคข้าวสาลี


อันผลิตผลในที่ไม่ต้องไถ ไม่มีรำ ไม่มีแกลบ
บริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม เป็นเมล็ดข้าวสารหุง
ในเตาอันปราศจากควัน แล้วบริโภคโภชนะ
แต่ที่นั้น.
ทำแม่โคให้มีกีบเดียว แล้วเที่ยวไปสู่ทิศ
น้อยทิศใหญ่ ทำสัตว์เลี้ยงให้มีกีบเดียว เที่ยว
ไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่.
ทำหญิงให้เป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่
ทิศน้อยทิศใหญ่ ทำชายให้เป็นพาหนะแล้ว
เที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่.
ทำกุมารีให้เป็นพาหนะแล้วเที่ยวไปสู่ทิศ
น้อยทิศใหญ่ ทำกุมารให้เป็นพาหนะแล้วเที่ยว
ไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่.
บรรดานางบำเรอของพระราชานั้นก็ขึ้น
ยานเหล่านั้นตามห้อมล้อมไปทุกทิศด้วย.
ยานช้าง ยานม้า ยานทิพย์ ปราสาท และ
วอ ก็ปรากฏแก่ท้าวมหาราชผู้ทรงยศ.
และท้าวมหาราชนั้นได้ทรงนิรมิตนครไว้
บนอากาศคือ อาฏานาฏานคร กุสินาฏานคร
ปรกุสินาฏานคร นาฏปริยานคร ปรกุสิตนา-
ฏานคร.



ทางทิศอุดร มีกปีวันตนคร และอีกนคร
หนึ่งชื่อ ชโนฆะ อีกนครหนึ่งชื่อ นวนวติยะ
อีกนครหนึ่งชื่อ อัมพรอัมพรวติยะ มีราชธานี
ชื่อ อาฬกมันทา ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์
ก็ราชธานีของท้าวกุเวรมหาราช ชื่อวิสาณา
ฉะนั้น มหาชนจึงเรียกท้าวกุเวรมหาราชว่า
ท้าวเวสวัณ.
ยักษ์ชื่อ ตโตลา ชื่อตัตตลา ชื่อตโตตลา
ชื่อโอชสี ชื่อเตชสี ชื่อตโตชสี ชื่อสุระ
ชื่อราชา ชื่ออริฏฐะ ชื่อเนมิ ย่อมปรากฏ
มีหน้าที่คนละแผนก.
ในวิสาณราชธานีนั้น มีห้วงน้ำชื่อ ธรณี
เป็นแดนที่เกิดเมฆ เกิดฝนตก ในวิสาณราช-
ธานีนั้น มีสภาชื่อ ภคลวดี เป็นที่ประชุม
ของพวกยักษ์.
ณ ที่นั้น มีต้นไม้เป็นอันมาก มีผลเป็นนิจ
ดารดาษ ด้วยหมู่นกต่าง ๆ มีนกยูงนกกะเรียน
นกดุเหว่า อันมีเสียงหวานประสานเสียง มี
นกร้อง ชื่อว่า ชีวะ ชีวะ และบางเหล่ามี
เสียงปลุกใจ มีไก่ป่า มีปู และนกโปรขร
สาตกะ อยู่ในสระประทุม.
ในที่นั้นมีเสียงนกสุกะ และนกสาลิกา

และหมู่นกทัณฑมาณวะ สระนฬินี ของท้าว
กุเวรนั้นงดงามอยู่ตลอดกาล.


ท้าวกุเวรถวายบังคม



[213] แต่ทิศนี้ไปทิศที่ชนเรียกกันว่า อุตตรทิศ
ที่ท้าวมหาราชผู้ทรงยศ เป็นเจ้าเป็นใหญ่ของ
ยักษ์ทั้งหลายทรงนามว่าท้าวกุเวร อันยักษ์
ทั้งหลาย แวดล้อมแล้วทรงโปรดปราน ด้วย
การฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาลอยู่.
ข้าพเจ้าได้สดับมาว่า โอรสของท้าวเธอมี
มากองค์ มีพระนามเดียวกันทั้งเก้าสิบเอ็ด
พระองค์ มีพระนามว่า อินทะ ทรงพระ
กำลังมาก.
ทั้งท้าวกุเวรและโอรสเหล่านั้นได้เห็นพระ-
พุทธเจ้าผู้เบิกบานแล้ว ผู้เป็นเผ่าพันธ์แห่ง
พระอาทิตย์ พากันถวายบังคมพระพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากความครั่นคร้าม แต่
ที่ไกล.
ข้าแต่พระบุรุษอาชาไนย ข้าพระพุทธเจ้า
ทั้งหลายขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้าแต่พระ
อุดมบุรุษ ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่
พระองค์ ขอพระองค์ทรงตรวจดูมหาชนด้วย